ทะเลทราย เป็นหนึ่งสถานที่ที่คนนิยมไปถ่ายรูปชิค ๆ เก๋ ๆ หลายคนคิดว่าทะเลทรายต้องร้อนมากแน่ ๆ เพราะมีแต่ทรายรอบด้าน ไม่มีต้นไม้หรือที่บังแดดเลย แต่ความจริงแล้วทะเลทรายไม่ได้ร้อนแบบที่หลายคนคิด เพราะใจกลางทะเลทรายหลายแห่งมีแหล่งโอเอซิสสวย ๆ ร่มรื่นเขียวขจีมาบรรเทาความร้อนระอุ ซึ่งแหล่งโอเอซิสส่วนใหญ่ก็สวยงามร่มรื่นและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของทะเลทรายนั้น มาดู 5 อันดับทะเลทรายที่สวยที่สุดในโลก กันว่ามีที่ไหนบ้าง แล้วจะน่าไปขนาดไหน
เช็คลิสต์ 5 อันดับทะเลทรายที่สวยที่สุดในโลก
ซีวา โอเอซิส (Siwa Oasis)
ซีวาโอเอซิส เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของประเทศอียิปต์โดยโอเอซิสแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของทะเลทรายลิเบีย (Libyan Desert) ภายในเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนกลุ่มน้อย ชาวเบอร์เบอร์ บ้านเรือนจะสร้างด้วย อิฐโคลน ตั้งเรียงราย โดยรอบจะพบกับต้นปาล์ม และมะกอกมากมาย ที่เป็นพืชเศรษฐกิจของที่นี่ ชุมชนแห่งนี้มีความสำคัญมาก เพราะในสมัยโบราณตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าในทะเลทราย และยังเป็นแหล่งน้ำพุธรรมชาติ เป็นที่พักสำรับผู้ที่เดินทางในเส้นทางนี้ นอกจากทะเลทรายแล้วที่นี่ยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ล่องเรือในทะเลสาบเพื่อชมวิว เล่นแซนด์บอร์ด ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกลับขอบทะเลทราย และลงว่ายน้ำในแหล่งน้ำพุธรรมชาติภายในโอเอซิส ไฮไลต์ของซีวา โอเอซิสคือ ทะเลสาบเกลือ สีเทอร์ควอยซ์ ที่พอลงไปแช่น้ำ ก็ลอยตัวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวจมเลย นับว่าเป็นอีกสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก
ทะเลทราย ซาฮาร่า (Sahara Desert)
ทะเลทราย ซาฮาร่า อดีตแห่งความอุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 9,400,000 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดัย 2 ของโลก และเป็นทะเลทรายร้อนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทะเลทราย ซาฮาร่า มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และยังเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนใฝ่ฝันว่าจะไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง เพราะมีมนต์เสน่ห์ มีเอกลักษณะเฉพาะตัว ที่ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยว ทะเลทรายซาฮาร่าตั้งอยู่ใน ประเทศโมรอคโค เมื่อเดินทางมาที่นี่สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ การขี่อูฐ เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกดิน เพราะนอกจากจะได้ชมวิวสวย ๆ แล้วยังได้สัมผัสกับอูฐ สัญลักษณ์แห่งทะเลทราย เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้ทั่ว ๆ ไป ว่ากันว่าในอดีตทะเลทรายแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะเล จึงทำให้มีการพบซากฟอสซิลของหอยและแมงกะพรุนโบราณที่มีอายุกว่า 350 ล้านปี ถือเป็นต้นกำเนิดของซากฟอสซิลต่าง ๆ และยังได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ว่าเป็น หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของทวีปแอฟริกา อยู่ในอารูชา (Arusha)
ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum)
ทะเลทราย วาดิรัม เมื่อได้เห็นหลายคนคงจะคุ้นตากันบ้าง เพราะทะเลทรายแห่งนี้เป็นหนึ่งในฉากของภาพยนตร์เรื่อง อะลาดิน และอีหลาย ๆ เรื่อง ทะเลทรายวาดิรัม อยู่ที่ประเทศจอร์แดน มีอีกชื่อหนึ่งว่า “หุบเขาแห่งพระจันทร์” (The Valley of the Moon) ว่ากันว่า 8,000 ปี ก่อนคริสตกาลมีมนุษย์อาศัยอยู่ แม้สภาพอากาศที่แห้งแล้งไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยนั้น แต่ได้มีการค้นพบภาพเขียนฝาหนังของมนุษย์ยุคโบราณ แสดงให้เห็นวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้น ทะเลทรายวาดิรัมจะมีลักษณะไม่เป็นแบบที่เราคุ้นเคยมากนัก เนื่องจากจะมีหินจำนวนมากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการปีนเขาจึงมักจะมาปีนหน้าผาหินกันที่นี่ เมื่อเดินทางมาที่นี่สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ การนั่งรถโฟร์วิลล์ เพื่อสัมผัสถึงความเป็น ทะเลทราย อย่างแท้จริง ซึ่งจะได้รับความรู้สึกที่เหมือนหลุดไปอยู่บนดาวอังคารหากใครต้องการดื่มดำกับบรรยากาศที่นี่ยังมีที่พักให้ทุกคนได้ นอนชมดาวท่ามกลางทะเลทรายเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ทะเลทราย วาดิรัม ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อทหารชาวอังกฤษ T.E. Lawrence มาสร้างพันธ์มิตรกับชาวเผ่าทะเลทรายในแถบนี้ เพื่อสู้กับตุรกี โดยใช้ทะเลทรายแห่งนี้เป็นฐานบัญชาการการสู้รบ ทำให้ทะเลทรายวาดีรัมมีอนุสรณ์ระลึกถึง Lawrence อยู่หลายจุด
ทะเลทรายอาหรับ (Arabian Desert)
ทะเลทรายอาหรับ เป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของหลายประเทศ ในกลุ่มคาบสมุทรอาหรับ เช่น จอร์แดน อิรัก คูเวต กาตาร์ โอมาน เยเมน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,300,000 ตารางกิโลเมตร Dune Bashing หรือ การตะลุยเนินทราย เป็นกิจจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมาก เพราะสนุก ท้าทาย และหวาดเสียว ที่นี่มีรถหลายแบบให้เลือก ทั้งนั่งรถออฟโรด หรือจะเช่ารถลุยโดยเฉพาะ ก็มีทั้งรถ UTV และ ATV รวมทั้งรถรุ่นต่าง ๆ หรือจะเป็นรถแบบ Quad Biking ก็ได้เหมือนกัน ไฮไลท์ของการนั่งรถตะลุยทะเลทรายคือการขับรถขึ้นเนิน ลงเนิน ตะแคงข้าง ไต่เนินตามสันทราย รวมทั้งการยกล้อโชว์ช่วงล่าง ในบางช่วง สร้างความหวาดเสียวกับคนนั่ง การตะลุยทะเลทรายจะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงกว่า ๆ หลังจากนั้นคนขับจะพาขึ้นไปจอดที่จุดเนินสูง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้ผ่อนคลายและได้ถ่ายรูปทะเลทราย และพระอาทิตย์ตก แล้วค่อยออกเดินทางต่อแบบสบาย ๆ ไปยัง AL SHAMSI BEDOUIN VILLAGE หรือแคมป์กลางทะเลทราย เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศแบบอาราเบียนแท้ ๆ และ รับชมการแสดงโชว์ 2 ชุด รอบละประมาณ 10 – 15 นาที การแสดงชุดแรกคือ Tambura Dance การแสดงที่สองเป็น Belly Dance หรือ การแสดงโชว์ระบำหน้าท้องนั่งเอง ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวมากที่สุดจะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เพราะอากาศไม่ร้อน และท้องฟ้าแจ่มใส
ทะเลทราย วาฮิบา (Wahiba Sands)
ทะเลทรายวาฮิบา เป็นสถานที่อันดับต้น ๆ ที่ใครเดินทางไปโอมาน จะต้องเดินทางไปเที่ยวชมทะเลทรายแห่งนี้ โดยส่วนมากนักท่องเที่ยวมักจะนิยม ไปพักแคมป์ ถ่าย และรูปบนเนินทราย การเดินทางไปยังทะเลทรายแห่งนี้ ต้องใช้รถแบบ 4WD หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ทะเลทราย วาฮิบา เป็นเนินทรายสีแดงน้ำผึ้งขนาดใหญ่ที่มีความงดงาม เมื่อตกยามค่ำคืนที่นี่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ดูดาวที่สวยที่สุดในโอมาน ที่เลื่องชื่ออีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม (Click)