อีก 1 อย่างที่หลาย ๆ คนใฝ่ฝันว่าอยากเห็นกับตาสักครั้งในชีวิต คงเป็นการไปชื่นชมความสวยงามของแสงเหนือด้วยตาตัวเองดูสักครั้ง ซึ่ง แสงเหนือ หรือ แสงออโรร่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติบนท้องฟ้าตอนกลางคืน พบได้ในบริเวณแถบขั้วโลกเหนือ และใต้ ปรากฏการณ์แสงเหนือ แสงใต้ เกิดจากการชนกันระหว่างก๊าซในชั้นบรรยากาศโลกกับอนุภาคไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ก่อให้เกิดการระเบิดเป็นลำแสงสีต่าง ๆ กันออกไป ซึ่งจะมีสีอะไรขึ้นอยู่กับแสงนั้นเกิดขึ้นในช่วงชั้นบรรยากาศไหน และเกิดจากก๊าซอะไร มาดู 5 สถานที่ดูแสงเหนือ ที่คนนิยมเดินทางไป

5 สถานที่ดูแสงเหนือ
ไอซ์แลนด์ (Iceland)
ถ้าพูดถึง แสงเหนือ หลาย ๆ คนคิดถึงประเทศ ไอซ์แลนด์ เป็นอันดับแรก ๆ เลย เพราะมีชื่อเสียงในหมู่ผู้ที่ตามล่าแสงเหนือ ทั้งที่ ภูเขาคีร์กจูเฟล (Kirkjufell) ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของไอซ์แลนด์ เป็นเดสทิเนชั่นที่ช่างภาพทั่วโลกฝันถึง และกรุงเรคจาวิค (Reykjavik) เมืองหลวงของไอซ์แลนด์นั่นเอง จนได้ขึ้นชื่อว่า ดินแดนแห่งแสงเหนือ เพราะไอซ์แลนด์ถือเป็นประเทศที่มีจุดชมแสงเหนือเยอะมาก แม้แต่ในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์อย่างกรุงเรคจาวิค ก็สามารถเห็นได้เหมือนกัน ซึ่งในเมืองนี้ เราสามารถเห็นแสงเหนือได้แทบทุกที่ภายในเมือง และเห็นได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูหนาวที่จะให้ได้ชัดเจนอลังการมาก
นอร์เวย์ (Norway)
หากพูดถึงจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่หลายคนใฝ่ฝัน ต้องมีแสงเหนือ นอร์เวย์ติดอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน นอร์เวย์มีจุดล่าแสงเหนือกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยจุดที่คนนิยมไปล่าแสงเหนือของนอร์เวย์คือ โลโฟเทน (Lofoten Islands) เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นพิกัดดูแสงเหนือ นอร์เวย์อีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาด ความสวยงามของหมู่เกาะ โลโฟเทน (Lofoten Islands) คือวิวทิวทัศน์ที่เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด มีภูเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะแถมยังรายล้อมไปด้วยน้ำทะเลซึ่งเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง ผสมกับความสวยงามของแสงเหนือ ช่างเป็นภาพที่ตราตรึงใจนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เมืองลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) เป็นหมู่เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือที่สุด อากาศหนาวถึงหนาวมาก อาจจะได้เจอกับความหนาวที่ติดลบ 20 องศา นอกจากนี้ยังมีหมีขาวขั้วโลกเหนืออาศัยอยู่ รวมทั้งกวางเรนเดียร์และสุนัขจิ้งจอก ในวันที่ท้องฟ้าเปิดและมืดสนิท พร้อมกับค่า Kp ที่ 2-3 คุณมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือแน่นอน ยิ่งเดินทางออกจากตัวเมืองที่ไร้แสงไฟบ้านเรือนรบกวน จะยิ่งมีโอกาสเห็นได้ชัดมากขึ้น เมืองทรอมโซ (Tromso) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว มีแสงเหนือสวยเพราะอยู่ท่ามกลางวงแหวนแสงออโรร่าพอดิบพอดี เหมาะสำหรับคนรักความสงบ และยังมี เมืองอันเดเนส (Andenes) ก็เป็นจุดแนะนำเช่นกัน
กรีนแลนด์ (Greenland)
กรีนแลนด์ ดินแดนที่มีชื่อว่าสีเขียว แต่พื้นที่ทุกหย่อมหญ้ากลับถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ จุดเด่นอีกอย่างของประเทศกรีนแลนด์ คือ สามารถชมแสงเหนือได้เกือบทั่วทั้งประเทศ เมืองอิลูลิสแซท เมืองมรดกโลกจากยูเนสโกที่ขึ้นชื่อเรื่องธารน้ำแข็ง เป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทางมาดูแสงเหนือของเล่านักท่องเที่ยว เพราะมีบ้านเรือนที่เป็นสีสันต่าง ๆ ทำให้ดูสวยงามเหมือนจินตนาการ หากวันไหนโชคดีเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือขึ้นบนเมืองที่สวยงามเหล่านี้
ฟินแลนด์ (Finland)
อีกหนึ่ง ประเทศที่มีแสงเหนือ อย่าง ฟินแลนด์ ซึ่งส่วนใหญ่นัก ล่าแสงเหนือ จะชื่นชอบที่นี่มากๆ เพราะมีโอกาสพบเจอปรากฏการณ์นี้ได้บ่อยครั้ง ซึ่งจุดยอดนิยมอยู่ที่ แลปแลนด์ (Lapland) เมืองทางตอนเหนือ ได้ชื่อว่าเป็นบ้านของกวางเรนเดียร์ เพราะที่นี่มีกวางเรนเดียวอาศัยอยู่ถึง 200,000 ตัว นอกจากนั้น Lapland ยังประกอบไปด้วยอุทยานแห่งชาติถึง 6 แห่ง ซึ่งในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะกลายเป็นสนามสกีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ นอกจากนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการอยากมาเห็นแสงเหนือด้วยสายตาตัวเอง คุณก็สามารถพบเห็นได้ในหลายสถานที่ทั่วทั้ง Lapland โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยถึง 200 คืน จาก 365 คืนต่อปีเลยทีเดียว
รัสเซีย (Russia)
รัสเซีย ประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถไปเที่ยวได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า โดยจุดชมแงเหนือในประเทศรัสเซียเมือง Murmansk เมืองทางตอนเหนือของรัสเซียที่อยู่ใกล้กับอาณาเขตของประเทศฟินแลนด์ ก็เป็นอีกจุดที่มีโอกาสจะได้พบแสงเหนือสูง แต่ควรวางแผน และเตรียมตัวให้ดีก่อน เพราะอากาศเข้าขั้นหนาวจัด รับรองว่ามาเที่ยวที่นี่จะได้พบกับบรรยากาศเมืองที่สวยงาม พร้อมด้วยกิจกรรมสนุก ๆ อย่างตกปลาน้ำแข็ง อีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเตม (Click)