มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) ถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่น ลึกลับ งดงาม และยังสะท้อนถึงอารยธรรมของชาวอียิปต์โบราณได้เป็นอย่างดี ทั้งด้านศาสนา และความเชื่อ ด้านสังคมวัฒนธรรม การเมืองการปกครอง และที่สำคัญที่สุดคือความเพียรพยายาม และความอดทนของชาวอียิปต์ที่พยายามสร้างสรรค์ และแกะสลักจากหินก้อนใหญ่กลายเป็นสถาปัตยกรรมระดับโลกจนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ความเชื่อเกี่ยวกับมหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza)
ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า สฟิงซ์เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของกษัตริย์ หรือเป็นสัตว์ที่ชาญฉลาด มีพลังเพื่อปกป้องพระศพ และทรัพย์สมบัติภายในพีระมิด และนอกจากสฟิงซ์จะมีหน้าที่เฝ้าพีระมิดแล้ว บริเวณรอบ ๆ ด้านหลัง และทุกด้านของสฟิงซ์มีพื้นที่ที่เรียกว่า นครมรณะ ซึ่งนครมรณะประกอบไปด้วยอาณาบริเวณที่คลอบคลุมผืนทรายทางใต้ ทางตะวันตก และทางเหนือของสฟิงซ์ ซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกขุดเจาะเป็นโพรง เพื่อใส่โลงหินที่บรรจุร่างของพระราชวงศ์ ขุนนาง และนักบวชชั้นสูงโดยผ่านกรรมวิธีการทำมัมมี่มาแล้ว สฟิงซ์จะคอยทำหน้าที่ขจัดวิญญาณชั่วร้ายให้พ้นจากหลุมศพเหล่านั้นด้วย
มหาสฟิงซ์ เป็นรูปสฟิงซ์แกะสลักด้วยหินขนาดใหญ่ที่สุดในอียิปต์ มีลำตัวเป็นสิงโต มีหัวเป็นมนุษย์ ตั้งอยู่บริเวณบรรดาพีระมิดทั้ง 3 แห่งของกีซา อยู่ในท่าหมอบเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ กับพีระมิดคาเฟร โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีความยาววัดจากหัวถึงหางกว่า 240 ฟุต (74 เมตร) มีความสูงประมาณ 66 ฟุต (20 เมตร) และเฉพาะส่วนใบหน้าของ มหาสฟิงซ์ กว้างประมาณ 14 ฟุต สฟิงซ์เป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานที่มีร่างกายเป็นสิงโต และมีหัวเป็นมนุษย์ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานที่มีบทบาทอย่างมากในตำนานความเชื่ออียิปต์โบราณ กรีก และเอเชีย โดยในอียิปต์โบราณนั้น สฟิงซ์เป็นผู้พิทักษ์จิตวิญญาณ และโดยปกติมักจะเป็นเพศชายที่สวมใส่เครื่องประดับศรีษะของฟาโรห์ สฟิงซ์จะปรากฏตัวอยู่ตามหลุมฝังศพ และวิหารต่าง ๆ แต่สฟิงซ์ที่ยิ่งใหญ่ และมีชื่อเสียงที่สุดคือมหาสฟิงซ์ตัวนี้ โดยเชื่อว่าใบหน้าของมหาสฟิงซ์ จำลองมาจากใบหน้า ของฟาโรห์คีเฟรน สามารถสังเกตว่าส่วนหัวของ มหาสฟิงซ์ มีสัญลักษณ์ของฟาโรห์อียิปต์ แสดงเอาไว้อย่างชัดเจน คือมีเคราที่คาง มีงูจงอางแผ่แม่เบี้ยที่หน้าผาก และยังมีเครื่องประดับ รัดเกล้าแบบฟาโรห์ ประกอบเข้ากับผ้าคลุมศีรษะ และคออีกด้วย จึงถือกันว่ามหาสฟิงซ์นี้ เป็นอนุสาวรีย์แกะสลักเก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกัน อียิปต์โบราณถือกันว่าสฟิงซ์เป็นร่างจำแลงภาคหนึ่งของเทพเจ้า การที่ฟาโรห์คาเฟร ให้แกะสลักใบหน้าสฟิงซ์เป็นใบหน้าของพระองค์
สฟิงซ์ในตำนานกรีก มีใบหน้าและช่วงอก เป็นหญิงสาว มีปีกแบบนกอินทรีย์ และสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ สฟิงซ์จะคอยถามคำถาม กับมนุษย์ที่หลงมาพบมันเข้า หากตอบคำถามไม่ได้ มนุษย์ผู้เคราะห์ร้ายนั้นก็จะถูกสังหาร ส่วนสฟิงซ์ของอียิปต์โบราณ ไม่มีปีกมีหน้าเป็นมนุษย์ผู้ชาย และยังมีแบบที่หัวเป็นแกะ และหัวเป็นนกเหยี่ยว
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ตั้ง: มหาพีระมิดแห่งกีซ่า กรุงไคโร ประเทศอียิปต์
เวลาเปิด-ปิด ทำการ: เดือนตุลาคม-มีนาคม 08.00 น. – 17.00 น.
เดือนเมษายน-กันยายน 07.00 น. – 19.00 น.
การเดินทาง: Taxi หรือ รถส่วนตัว