หากเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศใดแล้ว สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือการซื้อของที่ระลึก โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะซื้อสินค้าพื้นเมือง สินค้าที่มีชื่อเสียงของประเทศนั้น ๆ เป็นของฝาก เพื่อเป็นการเก็บความทรงจำของตัวเองในสถานที่ที่ไป หรือเพื่อแสดงความคิดถึงและแบ่งปันความทรงจำต่อผู้ได้รับ ซึ่งแต่ละประเทศจะมีย่านซื้อของฝากชื่อดังที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเยี่ยมเยียน ในประเทศอียิปต์ก็มีเช่นกัน นั่นก็คือ ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalili Bazaar) ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเก่าแก่ในเมืองไคโรประเทศอียิปต์ มีร้านค้ากว่า 1,500 ร้าน ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ๆ ถ้าเทียบกับประเทศไทยแล้วตลาดแห่งนี้จะคล้าย ๆ กับตลาดจัตุจักรบ้านเรา เมื่อได้เดินเข้าไปแล้วเราจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นอาหรับเฉพาะตัว เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะมีการร้องเรียก สั่นกระดิ่ง หรือแม้แต่การโชว์กายกรรมเล็ก ๆ เพื่อดึงดูความสนใจของนักท่องเที่ยวให้แวะเลือกแวะซื้อของร้านตน หรือถ้าเดินไปแล้วถูกทักทายว่า “หนีห่าว” ไม่ต้องแปลกใจ เพราะคนอียิปต์เข้าใจว่าคนเอเชียเป็นคนจีน จึงมักจะกล่าวทักทายนักท่องเที่ยวเอเชียเป็นภาษาจีน เพื่อเป็นการหยุดนักท่องเที่ยวให้หันมาสนใจในสิ่งที่ตนจะนำเสนอ หากใครจะเดินทางมาที่นี่ควรเผื่อเวลาไว้เยอะ ๆ จะได้มีเวลาเลือกซื้อสินค้าที่มีมากมายระรานตา ถ่ายรูปและท่องเที่ยวในสถานที่ใกล้เคียงได้อย่างเต็มที่ รับรองว่าจะได้รับความประทับใจและรูปถ่ายสวย ๆ ไว้ลงอวดในโซเชียลอย่างแน่นอน
ประวัติความเป็นมาตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalili Bazaar)
ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalili Bazaar ) ประเทศอียิปต์ เป็นตลาดสไตล์อาหรับโบราณ อายุกว่า 600 ปี ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 14 (ค.ศ. 1382-1389) โดย Jaharkas al-Khalili เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เป็นสุสานของราชวงศ์ฟาติมิด ต่อมาได้มีการเคลื่อนย้ายกระดูกและสร้างอาคารพาณิชย์ขึ้น ตลาดแห่งนี้ถูกรื้อถอนและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้งเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยของราชวงศ์ ณ ขณะนั้น พ่อค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวตุรกีที่เข้ามาค้าขายในประเทศอียิปต์ แต่ในปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นชาวอียิปต์ มีการเน้นขายของให้กับนักท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ มีสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง เครื่องเงิน เครื่องประดับ งานฝีมือ น้ำหอม เครื่องเทศต่าง ๆ
หากเดินทางไปอียิปต์แล้วสิ่งที่คนมักจะซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกคือ พีระมิด มัมมี่จำลองต่าง ๆ แล้วยังมีสินค้าหลายประเภทที่มีความประณีตและสวยงามที่โด่งดังของอียิปต์อีกหลายอย่างที่บางคนอาจไม่เคยได้ยิน นอกจากนี้ยังมีผลไม้ที่เลื่องชื่อในแถบนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
เครื่องเงิน มีทั้งแบบที่เป็นเครื่องประดับ เครื่องมือเครื่องใช้ หรือที่ใช้วางประดับบ้าน มีให้เลือกมากมายตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ล้วนแล้วแต่ถูกทำขึ้นมาด้วยความประณีต สวยงาม
อินทผาลัม อินทผาลัมเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของอียิปต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อินทผาลัมที่อร่อยที่สุดต้องมาจากแถบตะวันออกกลาง เนื่องจากอิทผาลัมที่นี่มีรสหวาน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลก เมื่อมาถึงแล้วไม่ควรพลาดที่จะซื้อติดไม้ติดมือกลับไปรับประทานหรือนำไปเป็นของฝากก็ได้
เครื่องเทศต่าง ๆ เครื่องเทศในประเทศอียิปต์สามารถหาซื้อได้ง่าย มีตามตลาดสดทั่วไปสังเกตได้จากทุกตรอกซอกซอยของอียิปต์นั้นมีร้านเครื่องเทศอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วทำไมคนถึงนิยมซื้อเครื่องเทศจากอียิปต์? ก็เพราะเครื่องเทศของที่นี่มีความแตกต่างจากที่อื่นคือมีความสดใหม่และมีคุณภาพดี จนทำให้หลายคนติดอกติดใจ เครื่องเทศเลยกลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของอียิปต์ไปเลย
น้ำหอม น้ำหอมเป็นอีกสิ่งหนุ่งที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน น้ำหอมของอียิปต์มีความแตกต่างจากน้ำหอมทั่วไป ตรงที่น้ำหอมของที่นี่จะเป็นแบบเทใส่มือ แล้วใช้นิ้วแต้มตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย น้ำหอมที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คือ Japara ที่โดนเด่นในเรื่องรูปลักษณ์ของขวดน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์อียิปต์แถมยังกลิ่นที่มีความหอมเย้ายวนชวนหลงไหล
ภาพวาดบนกระดาษปาปิรุส หากไปอียิปต์แล้วไม่ซื้อภาพวาดบนกระดาษปาปิรุสติดไม้ติดมือกลับบ้านถือว่าไปไม่ถึงอียิปต์ เนื่องจากกระดาษปาปิรุสนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก เรียกได้ว่าเป็นกระดาษชนิดแรกของโลกเลย กระดาษปาปิรุสทำมาจากต้นกก ที่ทนต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้งของประเทศอียิปต์ และสามารถเก็บไว้ได้นาน แต่หากจะนำเพียงกระดาษมาขายเพียงอย่างเดียวก็จะดูไม่น่าสนใจ ชาวอียิปต์จึงวาดลวดลายต่าง ๆ ที่แสดงถึงอารยธรรม วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวอียิปต์โบราณ ส่วนราคานั้นขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่ายของลวดลาย แต่บอกได้เลยว่าคุ้มมากเพราะเป็นสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นาน มีคุณค่าต่อความทรงจำที่หาที่ไหนไม่ได้
ในตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalili Bazaar) ไม่ได้มีแค่ร้านของที่ระลึกและเครื่องเทศเท่านั้น ที่นี่ยังมีร้านอาหารเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเช่นกัน เมื่อเดินทางมาที่นี่แล้วไม่ควรพลาดที่จะแวะลิ้มลองอาหารดั้งเดิมของอียิปต์ ที่แต่ละร้านจะมีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปเพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างและดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ร้านที่ไม่ควรพลาดเลย เมื่อเดินทางมาที่นี่คือ
ร้านฟิชาวี คอฟฟี่เฮ้าส์
เป็นร้านกาแฟสไตล์อาหรับที่เก่าแก่และโด่งดังมาก เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สร้างขึ้นในปี 1773 มีอายุกว่า 200 ปี กาแฟของที่นี่มีเอกลักษณ์ลักษณ์ที่ยังคงความเป็นอาหรับเอาไว้และมีกลิ่นอายเฉพาะตัวที่หาที่ไหนไม่ได้ หากใครที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟไม่ควรพลาดร้านนี้ กาแฟของที่นี่นั่นจะเสิร์ฟโดยนำกาแฟใส่กาน้ำร้อน และมีถ้วยเล็ก ๆ มาให้สำหรับดื่ม คล้าย ๆ กับการดื่มชาบ้านเรา ที่นี่ไม่ได้เพียงแต่บริการแค่กาแฟเท่านั้น ที่นี่ยังมีบริการ SHISHA หรือบารากุหลากหลายรสชาติเอาใจนักสูบอีกด้วย แต่หากใครไม่ชอบกลิ่นหรือควันทางร้านมีพื้นที่แบบ outdoor ไว้บริการด้วย
ร้าน Naguib Mahfouz
เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงและหรูหราที่สุดในย่าน Khan el Khalili เป็นร้านอาหารที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มอียิปต์แบบดั้งเดิม ในบางวันจะมีการแสดงดนตรีตะวันออกให้คุณได้เพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก ร้านอาหารแห่งนี้เป็นแบบ indoor หากใครที่ไม่ชอบกลิ่นบารากุ ควรเลือกพื้นที่ที่ห่างออกไป
หากยังพอมีเวลาเหลือขอแนะนำสถานที่ใกล้เคียงอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ มีความสวยงามและเหมาะกับการไปถ่ายรูปเป็นอย่างมาก เมื่อเดินไปด้านหลัง ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalili Bazaar) จะพบกับถนนสายเก่าแก่ของกรุงไคโรสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อสร้างเมืองไคโร ถนนแห่งนี้มีชื่อว่า Al Moez Ldin Allah Al Fatmi หรือที่มักเรียกกันว่า Moez Street เป็นถนนสั้น ๆ ที่โดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมรอบข้างที่มีเอกลักษณ์สไตล์อียิปต์โบราณอย่างชัดเจน สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม เมื่อเดินไปเกือบสุดถนนจะพบกับ Prince Bashtak Palace เดิมเคยเป็นพระราชวังของราชวงศ์ฟาติมิด ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปี 1992 ต่อมาได้มีการซ่อมแซมจากรัฐบาลและนักโบราณคดีจากเยอรมนี ใช้งบกว่า 50 ล้านปอนด์ ใช้เวลาในการซ่อมแซมนานถึง 2 ปี ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับอียิปต์ในยุคนั้น ตัวอาคารจะเป็นสถาปัตกรรมแบบยุค Mamluk โดยเพดานของห้องโถงนั้นทำมาจากไม้ หน้าต่างใช้กระจกสี ๆ ประดับเพิ่มความสวยงาม ตรงกลางห้องโถ่งจะพบน้ำพุหินอ่อน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมในยุคนั้น เพื่อใช้ในการสังสรรค์รื่นเริง โดยรอบอาคารจะมีห้องเล็ก ๆ สำหรับร้านค้า เปรียบเสมือนการจำลองเมืองในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ นอกจาก Prince Bashtak Palace แล้วตลอดสองข้างทางของถนนเส้นนี้ยังเต็มไปด้วยสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชมและศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของประเทศอียิปต์ที่มีมาอย่างช้านาน นอกจากจะได้ถ่ายรูปสวย ๆ แล้วยังได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกด้วย นับเป็นอีก 1 สถานที่ที่ไม่ควรพลาด
ข้อมูลทั่วไปของตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalil Bazaar)
สถานที่ตั้ง: กรุงไคโร, ประเทศอียิปต์ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเพียง 15 นาที (google map)
อัตราค่าเข้าชม: ไม่มี
วัน/เวลา เปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-23.00 น.
ข้อควรระวัง
- ควรระมัดระวังในเรื่องตกลงราคา การชำระเงิน และการทอนเงิน
- การต่อลองราคาควรต่อราคา 50-70% ของราคาสินค้าที่ถูกเสนอ
- เนื่องจากตลาดข่านมีตรอก ซอก ซอย ค่อนข้างเยอะ หากมีเด็กไปด้วยไม่ควรปล่อยปละ ละเลย เพื่อป้องกันการพลัดหลง
- ควรเก็บของมีค่าไว้ใกล้ตัว ไม่ควรวางสิ่งของทิ้งไว้
- ควรตรวจเช็คว่าของสิ่งนั้นสามารถนำกลับเข้าประเทศได้หรือไม่